ความรัก.... ทำให้คนอย่างฉันตาบอด
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามถ้ามันเกิดขึ้นกับใคร
แต่เราต้องเลือกที่จะรักให้ถูกเวลา และโอกาส ลองอ่าน
และติดตามนะคะ .....
่ |
|
ฉันสอบติดที่สถาบันราชภัฎฯ
แห่งหนึ่งในเขตภาคอีสาน แต่ไม่ใช่จังหวัดบ้านเกิด
ฉันต้องเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่นั่นเพื่อไปเรียน ๔
ปี ปีแรกก็มีความรักกับเพื่อนชายรุ่นพี่เสียแล้ว
แต่ไม่นานก็เลิกรากันไป เพราะฉันมาหลงรัก และสงสารชายคนใหม่เป็นเพื่อนนักศึกษารุ่นน้อง
ซึ่งเรียนอยู่ร่วมห้องเดียวกัน เขาบอกว่า ชอบเรา
เพื่อนๆ ก็ยุยงส่งเสริมให้ชอบ เราจึงคบกัน ฉันพักในหอพักของสถาบัน
เขาก็เช่นกัน ก่อนหอพักปิด เราจะนัดพบและรับประทานอาหารด้วยกันเกือบทุกวัน
ไปไหนก็ไปด้วยการตลอด พอปิดเทอม กลับมาบ้านก็ยังคงคอยเฝ้าคิดถึงเขา
กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ อยากให้เปิดเทอมเร็วๆ
|
คบกันได้ไม่นานเท่าไร ก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เขาคุมแบบธรรมชาติ
บางครั้งฉันก็ใช้ห่วงอนามัย ไม่รู้จักการกินยาคุมกำเนิด
และไม่คิดจะซื้อมากิน ถ้าเกิดความผิดพลาด (ท้อง)
ขึ้นมา ทั้งตัวเอง และพ่อแม่คงอายชาวบ้านน่าดู ก็กลัวเหมือนกันนะ
แต่ความอยากมันมากกว่า..การเรียนฉันกลายเป็นไม่ค่อยสนใจ
ไม่อ่านหนังสือหรือท่องตำรา ว่างก็นอนเล่นอยู่ในหอพักรอเวลาเจอหน้าเขา
ไปทานข้าว แล้วมาจบกันบนสรวงสวรรค์..วันๆ มีแค่นั้น!
มันช่างวิเศษจริงๆ! |
ชีวิตช่วงนั้นไม่มีใครมาคอยเตือนสติเลย ทุกสิ่งทุกอย่างทำไปตามใจตนเอง
คิดเองทำเองหมด พอขึ้นปีที่ ๓ ก็ย้ายออกจากหอพัก
ไปเช่าห้องอยู่กันแบบคู่ผัวตัวเมียเต็มรูปแบบ ทิ้งความสนุกสนานกับเพื่อนฝูง
มาใช้ชีวิตคู่ที่ลำบาก ต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะทางบ้านของฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไร
แต่ละเดือนพ่อแม่ส่งเงินมาให้นิดเดียว ไม่พอใช้เลยต้องอดออม
จนกระทั่งขึ้นปีที่ ๔ ฉันกับเขาต้องห่างเหินกัน
เพราะต่างคนต่างก็ต้องไปฝึกงาน ฉันก็มาคบกับผู้ชายคนใหม่อีกคน
เขาก็รู้! แต่ยังทนอยู่ด้วยกัน พอเรียนจบ ฉันเก็บของกลับบ้าน
เขาไม่ช่วยฉันขนเลย เขาเริ่มเมินเฉย สงสัยว่า เขาคงอยากเลิกกับฉันแล้ว |
ฉันกลับมาบ้าน เพื่อรองาน ส่วนเขาเองก็ติดต่อมาบ้าง
แต่รักแท้อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ห่างไกล ก็ต้องแพ้คนใกล้
เขาได้งานทำที่วิทยาลัย และไปคบกับหญิงรุ่นน้องที่เรียนชั้นเดียวกัน
ฉันรู้สึกเจ็บใจมาก เสียใจมาก ยอมรับว่า รักเขาจนไม่ลืมหูลืมตา
ไม่สนใจอะไรเลย มาคิดอีกทีหนึ่ง เขาเคยมาที่บ้านฉัน
คงเห็นว่า บ้านฉันยากจน เขาจึงไม่สานสัมพันธ์ต่อ |
หลายคนบอกว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่แก้ไขอะไรในอดีต
เพราะเราเลือกชีวิตแบบนั้นเอง แต่สำหรับฉัน
หากย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่รัก จะไม่ชอบผู้ชายหน้าไหนเลย
ถ้าเป็นไปได้ ถ้าจะชอบ ก็แค่แอบชอบเขาพอให้หัวใจกระชุ่มกระชวยบ้างแค่นั้นก็พอ
จะไม่ตาบอดไปรักเขา ชอบเขาจนหัวปักหัวปำแบบนี้ |
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
เพราะจะได้มีอนาคตที่ดีกว่านี้ มีการมีงานที่ดีทำ
ให้สมกับที่พ่อแม่ลำบากลำบนส่งเงินให้ลูกเรียน แต่นี่ลูกสาวกลับมัวแต่บ้าผู้ชาย
ไม่สนใจเรียน โชคดีนะที่ไม่ท้อง โชคดีนะที่ไม่ติดโรคให้พ่อแม่อับอายขายหน้า
และไม่ได้ทำแท้งให้เป็นบาป |
ตอนนี้ เห็นคู่หนุ่มสาว น้องๆ นักศึกษา แล้วคิดถึงตัวเอง
ตอนนั้นฉันนี้โง่จริงๆ ตาบอดรักไม่ลืมหูลืมตาอยู่ตั้ง
๔ ปี รักในวัยเรียน ๑๐ คู่ จะคบกันยาวนานจนได้แต่งงานกันจริงๆ
จะถึง ๑ คู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันคิดว่า การคบการเลือกคู่ครอง
เราน่าจะเริ่มในวัยทำงานมากกว่า เพราะทำงานหาเงินได้ด้วยตนเองแล้ว
มีความคิดความอ่าน และได้ศึกษาดูใจกันมากพอแล้วเท่านั้น
รักในวัยเรียนเป็นรักฉาบฉวย ไม่ใช่รักแท้ ไม่จีรังยั่งยืน
ไม่แน่ไม่นอน พอจบการศึกษาจนได้รับในปริญญา ต่างคน
ต่างก็ไปตามวิถีทางของใครของมัน ที่เคยสัญญิงสัญญากันไว้
ก็สลายหายไปหมดสิ้น แม้ผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาสูง
มีการงานมั่นคงยังประสบปัญหารักเป็นพิษ, รักล่ม,
รักนุงนัง, รักยกครัว และอีกสารพัดรักพิษ ดังที่เป็นข่าวมากมาย
แม้ตัวฉันเองก็ยอมรับว่ามักมากในกาม เท่าที่คบกับผู้ชายมา
ก็เห็นชัดว่า เขาทุกคนก็มักมาก แล้วอย่างนี้มันจะจบลงตรงไหน
บทสุดท้ายของรัก บทสุดท้ายของชีวิตคืออะไร... |
อยากเตือนน้องๆ ที่อยู่ในวัยเรียนตอนนี้
บางคนอาจมีพฤติกรรมคล้ายฉัน ขอให้เลิกตาบอด...จงลืมตาได้แล้ว
ในเมื่อหาความจริงความจังอะไรไม่ได้แล้ว การใช้ชีวิตโสด
สบายกว่ากันเยอะ...! ขอให้คิดถึงตัวเอง คิดถึงหัวอกของพ่อแม่
คิดถึงอนาคตข้างหน้าให้มากๆ กลับไปตั้งใจเรียนเถอะ
อย่าเอาอย่างพี่เลย |
|
เก่งจริงนะคุณหนู ปลื้มใจจัง
ข้อเขียนล้วนไพเราะงดงาม เป็นสัจจะธรรมะ เป็นข้อเขียนของผู้มีปัญญาอย่างแท้จริง
เชื่อว่าคุณหนูจะได้พบหนทางอันประเสริฐ กามหยาบๆ
ของมนุษย์มีแค่นี้แหละคุณหนู ซ้ำมีพิษร้าย ขอเชิญคุณหนูแสวงหากามอันเป็นทิพย์ที่ยอดเยี่ยมตามทางของพระอริยะเถิด
......พระเกษตร ปคุโณ
|
|