ดิฉันได้เกิดเป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักรินทร์เทวราช
๖๔ พระองค์ ดิฉันได้เกิดเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ
๖๓
พระองค์ นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว
ดิฉันมีผิวพรรณดังทองคำ ท่องเที่ยวอยู่ในสุคติภพทั้งหลาย
สวรรค์เป็นที่อยู่ของ
ของดิฉัน ดิฉันเป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถาน
นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว.
เมื่อดิฉันเกิดในโลกมนุษย์ ดิฉันย่อมได้ยานช้าง
ยานม้า ยานรถ และยานอย่างดีเลิศทุกอย่างมากมาย
นี้เป็นผลแห่งการรักษารักษาอุโบสถ
ศีลเพียงครั้งเดียว ภาชนะอันสำเร็จด้วยทองคำ
เงิน แก้วผลึก แก้วปทุมราช ดิฉันได้ทุกอย่าง
ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย
และผ้าอันมีค่าสูง ดิฉันได้ทุกสิ่ง นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว.
ข้าวน้ำ ของเคี้ยว ที่นั่งที่นอน ที่อยู่อาศัย
ไร่นา และที่ดิน
อันกว้างใหญ่ ดิฉันได้ทุกอย่าง นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว.
เครื่องหอมชนิดดีเลิศ ดอกไม้ เครื่องสำอางอย่างดี
ดิฉันได้ทุกประการ นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว.
เรือนยอด ปราสาท มณฑป เรือนโล้นและถ้ำ ดิฉันก็ได้้ถ้วนทุกสิ่ง
นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว.
ในชาตินี้พอดิฉันเกิดมาได้ ๗ ขวบ ได้ออกบวชเป็นบรรพชิตในพระพุทธศาสนาของสมณะโคตะมะผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์โลก
ได้บรรลุอะระหัต
เมื่อยังไม่ทันถึงครึ่งเดือน ดิฉันมีอาสะวะกิเลสสิ้นไปหมดแล้ว
บัดนี้ภพใหม่ไม่มีสำหรับดิฉัน. ในกัปที่
๙๑ นับแต่กัปนี้ ดิฉันได้ทำกรรมอันงาม
ด้วยผลแห่งกรรมนั้นดิฉันไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว.
ดิฉันเผากิเลสกิเลสทั้งหลายแล้ว
ถอนภพขึ้นได้หมดแล้ว ตัดกิเลสเครื่องผูกพันเหมือนช้างพังตัดเชือกแล้ว
เป็นผู้ไม่มีอาสะวะอยู่ การที่ดิฉันได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้าผู้
ประเสริฐสุดนี้ เป็นการมาดีแล้วหนอ
วิชชา ๓ ดิฉันได้บรรลุแล้วโดยลำดับ กิจที่ควรทำในพระพุทธศาสนาดิฉันได้ทำสำเร็จแล้ว.
ท่านพระเอกุโปสถิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้
ด้วยประการนี้แล. จบเอกุโปสถิกาเถริยาปาทาน
|