|
|
ในกาลก่อน เราเกิดเป็นนายโคบาลต้อนโคไปเลี้ยงเห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่นจึงห้ามมัน
ด้วยวิบากกรรมนั้นในภพนี้ เมื่อก่อนปรินิพพานเรากระหายน้ำก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามปรารถนา
ในชาติหนึ่ง เราเกิดเป็นนักเลงชื่อ"ปุนาลิ"ได้กล่าวตู่พระปัจเจกะพุทธชื่อ"สุระภี"
ผู้ไม่ประทุษร้ายใคร้วยวิบากแห่งกรรมนั้นเราต้องไปเกิดในนรกเป็นเวลานาน
ได้เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัสหลายพันปีด้วยผลแห่งกรรมที่เหลือ ในภพหลังสุดนี้เราจึงได้คำกล่าวตู่จากนางสุนทริกา
ในชาติหนึ่ง
เราได้กล่าวตู่พระเถระนามว่า "นันทะ" สาวกของพระพุทธเจ้าผู้ครอบงำอันตรายทั้งปวง
เราจึงท่องเที่ยวอยู่ในนรกนานหมื่นปี ต่อมาเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ต้องถูกกล่าวตู่เป็นอันมาก
ด้วยผลกรรมที่เหลือนั้น นางจิญจะมานะวิกากับหมู่ชนได้กล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง
เมื่อก่อนเราเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ
"สุตะวา" ชนทั้งหลายสักการบูชาสอนมนต์ให้กับมาณพประมาณ ๕๐๐ คน ในป่าใหญ่
เราได้เห็นฤาษีผู้น่ากลัว ได้อภิญญา ๕ มีฤทธิ์มาก มาในสำนักของเรา
เราได้กล่าวตู่ฤาษีผู้ไม่ประทุษร้าย โดยได้บอกกับพวกศิษย์ของเราว่า
ฤาษีนี้มักบริโภคกาม เมื่อเราบอกพวกมาณพก็เชื่อฟัง ครั้งนั้นมาณพทั้งหมดนั้นไปบิณฑบาตพากันบอกแก่มหาชนว่า
ฤาษีนี้มักบริโภคกาม ด้วยวิบากกรรมนั้น มาณพเหล่านั้นได้มาเป็นภิกษุ
๕๐๐ เหล่านี้ ทั้งหมดถูกกล่าวตู่จากนางสุนทริกา
ในกาลก่อน เราได้ฆ่าน้องชายต่างมารดาเพื่อหวังทรัพย์สมบัติ
โดยผลักให้ตกสู่ช่องเขาแล้วเอาก้อนหินทับ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระเทวทัตจึงผลักหินให้กลิ้งมากระทบนิ้วแม่เท้าของเราจนห้อเลือด,
ในกาลก่อน เมื่อเรายังเป็นเด็กเล่นอยู่ที่หนทางใหญ่
เห็นพระปัจเจกะพุทธแล้วก่อไฟดักไว้ทั่วหนทาง ด้วยวิบากกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้
พระเทวทัตจึงชักชวนนักแม่นธนูผู้ฆ่าคนตายมามาก ให้มาดักฆ่าเรา, ในกาลก่อน
เราเป็นนายควานช้าง ได้ไสช้างให้ไล่ชนพระปัจเจกะพุทธผู้อุดมมุนีกำลังเที่ยวเดินบิณฑบาต
ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ช้างนาฬาคีรีที่ดุร้ายจึงวิ่งเข้าใส่เรา, ในกาลก่อน
เราเป็นแม่ทัพทหารได้ฆ่าคนเป็นอันมากด้วยหอก ด้วยวิบากกรรมนั้น เราจึงถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงในนรก
ด้วยผลกรรมที่เหลือหมอชีวะกะจึงผ่าตัดพระบาทอันเกิดจากการห้อพระโลหิตของเรา,
ในกาลก่อน เราเป็นเด็กลูกชาวประมงหมู่บ้านเกวัฎฎะคาม
เห็นคนทั้งหลายฆ่าปลาแล้วเกิดความโสมนัสยินดี ด้วยวิบากกรรมนั้นเราจึงปวดพระเศียรเมื่อพวกเจ้าศากยะทั้งหลายถูกพระเจ้าวิฎฎุภะฆ่า,
ในกาลก่อน เราได้ด่าพระสาวกทั้งหลายของพระผุสสะพุทธเจ้าว่า
พวกท่านจงกินแต่ข้าวแดงเถิดอย่าได้กินข้าวสาลีเลย ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น
เมื่อเราได้รับนิมนต์จากพราหมณ์ให้อยู่ในเมืองเวรัญชาต้องเสวยข้าวแดงตลอด
๓ เดือน, ในกาลก่อน เราเป็นนักมวยปล้ำ
เราได้จับคู่ต่อสู้ทุ่ม ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ความปวดหลังจึงมีแก่เรา,
เมื่อก่อน เราเป็นหมอให้ยาถ่ายแก่ลูกเศรษฐีคนหนึ่งตาย
ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้นโรคลงพระโลหิตจึงมีแก่เรา, ในกาลก่อน
เราชื่อโชติปาละได้กล่าวจ้วงจาบพระกัสสะปะพุทธเจ้าว่า พระองค์จะตรัสรู้ได้อย่างไร
เพราะการตรัสรู้ทำได้ยาก ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราต้องบำเพ็ญทุกกะระกิริยาที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมตลอด
๖ ปี แต่เราก็มิได้ตรัสรู้ด้วยการทรมานตนอันนั้น เราอันกรรมเก่าตักเตือนแล้วได้ละทางผิดนั้นเสียจึงได้ตรัสรู้
บัดนี้เราเป็นผู้สิ้นบาปและบุญ พ้นจากความเร่าร้อนทั้งปวง
ไม่มีความเศร้าโศก ไม่คับแค้น ไม่มีอาสวะ จักนิพพาน พระชินเจ้าทรงบรรลุกำลังแห่งอภิญญาทั้งปวงแล้ว
ทรงพยากรณ์โดยหวังประโยชน์แก่พระภิกษุสงฆ์ที่สระอโนดาต ด้วยประการฉะนี้แล
พระผู้มีพระภาคได้ทรงภาษิตธรรมะบรรยาย ปุพพะกัมปิโลติพุทธาปทาน อันเป็นจารีตเก่าก่อนของพระองค์ ด้วยประการฉะนี้
|
|
|