ความตาย เป็นเรื่องที่ใครๆไม่อยากได้ยิน ไม่อยากได้ฟัง ไม่อยากอ่าน พระอริยะบุคคลผู้มีปัญญาท่านใช้หนามบ่งหนาม พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ว่า  "ผู้เจริญมรณะสติ ย่อมเข้าถึงอมตะ" นั่นหมายถึงว่า "ผู้ระลึกถึงความตายย่อมเข้าถึงพระนิพพาน อันไม่เกิดไม่ตาย"

มรณะเป็นทุกข์อย่างหนึ่งของสัตว์โลก ความหมายของมรณะที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน มหาสติปัฏฐานสูตร ดังนี้ " ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มรณะ คือ การจุติ การเคลื่อนไป การแตกทำลาย การหายไป มฤตยู ความตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ การทิ้งซากไว้ การสิ้นชีวิตของเหล่าสัตว์"

ร่างกายที่มีจิตวิญญาณครอง ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ เดินไปเดินมาได้ ถ้ามีแต่ร่างกาย ไม่มีจิตวิญญาณ ก็เป็นศพเดินเหินไม่ได้ สัตว์เมื่อหมดอายุหรือหมดบุญ ร่างกายแตกทำลายไปเป็นธาตุดิน,น้ำ,ไฟ,ลม ส่วนจิตวิญญาณ ถ้ายังมีกิเลสอยู่ย่อมไปสิงสถิตในร่างกายอื่นอีก คือไปเกิดใหม่ ดังนั้นการตายของสัตว์ทั้งหลายจึงไม่พ้นทุกข์ เมื่อเป็นเช่นนั้นจะทำอย่างไร???




ปัพพโตปมสูตร
( ว่าด้วยชรามรณะดุจภูเขากลิ้งมาบดสัตว์ )
ครั้งนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศล เสด็จเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ทรงอภิวาทแล้วประทับนั่งสนทนากับพระองค์ว่า

(พระราชา) " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชาผู้ได้ราชาภิเษกแล้ว เป็นผู้เมาในความเป็นใหญ่ เป็นผู้มีกามราคะกลุ้มรุมแล้ว เป็นผู้มั่นคง เป็นผู้ชนะครอบครองปฐพีมณฑลอันใหญ่ มีราชกรณียะกิจอันใด หม่อมฉันถึงแล้วในราชกรณียะกิจเหล่านั้น"

(พระพุทธเจ้า) " ดูก่อนมหาบพิตร พระองค์จะทำอย่างไร ถ้ามีผู้ควรเชื่อถือ มาจากทิศตะวันออกบ้าง, จากทิศตะวันตกบ้าง, จากทิศเหนือบ้าง, จากทิศใต้บ้าง กราบทูลพระองค์ว่า ขอเดชะมหาราชเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าได้เห็นภูเขาใหญ่สูงเทียมเมฆ กำลังกลิ้งบดสัตว์ทั้งปวงมา สิ่งใดที่พระองค์ควรกระทำ ขอได้โปรดกระทำเสียเถิดพระเจ้าข้า ! "

(พระราชา) " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อมหาภัยอันร้ายกาจที่ทำให้มนุษย์พินาศใหญ่ถึงเพียงนั้นเกิดขึ้นแก่หม่อมฉัน อะไรเล่าที่หม่อมฉันจะกระทำในภาวะที่ได้เกิดเป็นมนุษย์แสนยาก นอกจากการประพฤติธรรม การทำกุศล การทำบุญ "

(พระพุทธเจ้า) " ดูก่อนมหาบพิตร ถ้าชราและมรณะครอบงำพระองค์ พระองค์จะทำอย่างไร? "

(พระราชา) " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อชราและมรณะครอบงำหม่อมฉัน อะไรเล่าที่หม่อมฉันจะกระทำ นอกจากการประพฤติธรรม การทำกุศล การทำบุญ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การรบด้วยช้าง, การรบด้วยม้า, การรบด้วยรถ, การรบด้วยทหารราบ, การรบด้วยมนต์ และการรบด้วยเงินทอง ย่อมไม่มีเมื่อชราและมรณะครอบงำ "

(พระพุทธเจ้า) " ถูกแล้วๆ มหาบพิตร เมื่อชราและมรณะครอบงำอยู่ อะไรเล่าที่ควรกระทำ นอกจากการประพฤติธรรม การทำกุศล การทำบุญ "
แล้วพระผู้มีพระภาคตรัสเป็นพระคาถาว่า

" ภูเขาศิลาใหญ่ สูงจรดท้องฟ้า กลิ้งบดสัตว์มาโดยรอบทั้ง ๔ ทิศฉันใด
ชราและมัจจุราชก็ฉันนั้น ย่อมครอบงำสัตว์ทั้งหลาย คือ พวกกษัตริย์
พวกพราหมณ์ พวกแพศย์ พวกศูทร พวกคนจัณฑาล และพวกคนขนขยะ
ไม่เว้นใครๆเลย ย่อมย่ำยีทั้งสิ้น เมื่อนั้นไม่มียุทธภูมิสำหรับพลช้าง พลม้า
พลรถ พลทหารราบ มนต์ หรือทรัพย์ เพราะฉะนั้นบุรุษผู้มีปัญญา
เมื่อเห็นประโยชน์พึงตั้งศรัทธาไว้ในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม
และในพระสงฆ์ ผู้ใดมีปกติประพฤติธรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญในโลกนี้ ผู้นั้นละโลกนี้ไปย่อมบันเทิงในสวรรค์ "

( สังยุตตนิกาย สคาถาวรรค เล่ม ๑๕ หน้า ๑๔๑ )

 

 
 

หน้าแรก I ประวัติหลวงพ่อเกษตร I วัดเขาหินเทิน I ภาพกิจกรรมวัดเขาหินเทิน I ธรรมะโดยหลวงพ่อเกษตร I กระดานกระทู้ธรรม l ติดต่อกับเรา
Copyright © 2003  Wat Khaohinturn All rights reserved
Designed & Managed by : flmonline.net