|
|
๒. ฆ่าตัวตาย กระโดดตึกตาย
เมื่อตายแล้วพ้นทุกข์จริงหรือ ? |
|
ตอบ
|
การฆ่าตัวตายด้วยวิธีต่างๆ ไม่ทำให้พ้นทุกข์
เพราะถ้ายังมีกิเลสตัณหา ก็ต้องไปเกิดอีก อาจไปเกิดในภูมิที่ต่ำกว่า
เช่น ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือสัตว์นรก ก็จะยิ่งทุกข์มากกว่าเดิม |
|
|
๓. คนที่เป็นบ้า หรือจิตวิปลาส
อารมณ์ของเขาอยู่ในสภาวะที่เป็นทุกข์ หรือสุข ? |
|
ตอบ
|
คนบ้ามีอารมณ์ที่เป็นทุกข์
จึงแสดงความวุ่นวาย ความไม่สงบปรากฏออกมาให้เห็น ตรงข้ามกับผู้ไม่เป็น
ทุกข์ จะไม่วุ่นวายและมีความสงบ
|
|
|
|
|
๔. ทำบุญอย่างไร จึงจะได้อานิสงค์สูงสุด
?
|
|
ตอบ
|
บุญขั้นต่างๆที่มีอานิสงส์สูงกว่ากันตามลำดับดังนี้
๑. ให้ทานแก่สัตว์เดรัจฉาน มีอานิสงส์ ๑๐๐ เท่า
๒. ให้ทานแก่คนไม่มีศีล มีอานิสงส์สูงกว่าอีก ๑๐๐ เท่า
๓. ให้ทานแก่คนมีศีลห้า มีอานิสงส์สูงกว่าอีก ๑๐๐ เท่า
๔. ให้ทานแก่ผู้ได้ฌาน ๑, ๒, ๓ และ ๔ มีอานิสงส์ แสนโกฏิ
๕. ให้ทานแก่พระโสดาปัตติมรรค มีอานิสงส์ เป็นอสงไขย ( นับไม่ถ้วน
)
จะกล่าวไปใยในการให้ทาน แก่ พระโสดาปัตติผล
.สกทาคามี
.อนาคามี
..อรหันต์
.พระปัจเจกพุทธ
.พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๖. การถวายทานแก่สงฆ์ โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข
๗. การสร้างวิหารทาน ( สร้างวัด )
๘. การประกาศและเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า "การให้ธรรมเป็นทาน
ย่อมชนะการให้ทั้งปวง"
๙. มีความเลื่อมใสศรัทธาใน พระพุทธเจ้า
พระธรรม
.พระสงฆ์
๑๐. สมาทานศีล ๕
๑๑. ออกจากเรือนบวชเป็น พราหมณ์,
ฤาษี,
ชี,
สามเณร,
พระภิกษุผู้มีศีล
๑๒. เจริญเมตตาจิต
๑๓. พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง
๑๔. ตัดกิเลสสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ข้อนี้มีอานิสงส์สูงสุดกว่าบุญทั้งหลาย
|
|
|
|
๕. คนที่ผิดลูกผิดเมียเขาจะบาปหรือไม่
(ทั้งๆที่รู้ว่าเขามีลูกเมียอยู่แล้วก็ยังทำ) ? |
|
ตอบ
|
การประพฤติผิดในกามเป็นบาปแน่ ในปัจจุบันเขาจะไม่มีความสุข(
มีตัวอย่างที่ให้เห็นชัดเจนตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน
) และเมื่อตายไปแล้วต้องชดใช้เวรกรรมในนรก มีทุคติภพอยู่เบื้องหน้า |
|
|
|
๖. การปฏิบัติธรรมมีผลดีกับเราอย่างไรบ้าง? |
|
ตอบ
|
การปฏิบัติธรรมทำให้มีความสุขในปัจจุบัน
และมีสุคติภพอยู่เบื้องหน้า |
|
|
|
๗. ตายแล้วไปไหน ? |
|
ตอบ
|
ตายแล้วถ้ายังมีกิเลสอยู่ก็ยังไปเกิดอีก
จะเกิดเป็นอะไรก็แล้วแต่กรรมดี กรรมชั่ว ที่ทำสะสมไว้ แต่ถ้าสิ้นกิเลสแล้วก็ไปสู่พระนิพพาน |
|
|
|
|
๘. ทำไมคนเราต้องเกิด
แก่ เจ็บ ตาย เวียนว่ายตายเกิด ? |
|
ตอบ
|
เหตุที่คนเรายังต้องเวียนว่ายตายเกิด
เพราะ มีตัณหา ( ความอยาก ) |
|
|
|
๙. ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์
? |
|
ตอบ
|
จะพ้นทุกข์ได้ด้วยการละตัณหา
จะละตัณหาได้เพราะเห็นโทษ และเห็นทุกข์ในโลก |
|
|
|
๑๐. ทำอย่างไรจึงจะได้ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด
?
|
|
ตอบ
|
การปฏิบัติเพื่อไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด
คือ การประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา แล้วพิจารณาให้เห็นโทษของโลก
ให้เห็นทุกข์ในโลก แล้วจงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัดในโลก อย่ายินดีในโลก |
|
|
|
๑๑. ไตรลักษณ์ คืออะไร
?
|
|
ตอบ
|
ไตรลักษณ์ คือ ลักษณะ ๓ ประการ ได้แก่
๑. สังขาร ( สิ่งปรุงแต่ง ) ทั้งปวง ไม่เที่ยง ( อนิจฺจตา )
๒. สังขารทั้งปวง เป็นทุกข์ ( ทุกฺขตา )
๓. ธรรมชาติทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน ว่างเปล่า ( อนตฺตตา )
อธิบายว่า สังขาร คือ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงทั้งรูปและนามในโลกไหนๆก็ตาม
ย่อมก่อกำเนิดจากการรวมตัว ( ปรุงแต่ง ) ขึ้นจากธาตุต่างๆ เมื่อก่อเป็นตัวเป็นตนแล้วจะตั้งอยู่ได้ไม่นาน
ก็จะแปรปรวนไหลไปสู่ความเก่าชำรุด ขณะเดียวกันก็มีสภาวะเป็นทุกข์ไปด้วย
แล้วแตกสลายสู่ความมรณะไปในที่สุด หาตัวตนที่ยั่งยืนไม่ได้ สำคัญมั่นหมายไม่ได้
ยึดถือไม่ได้ เป็นความว่างเปล่า
|
|
|
|